top of page

รู้ทัน เทคนิคเส้นทางการออมเงิน ! เพื่อเตรียมตัวซื้อบ้าน

ก่อนซื้อบ้านต้องมีเงินออม

ชีวิตวัยทำงานเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะเริ่มคิดถึงการมีบ้านเป็นของตัวเอง หลายรายบ่นอยากมีบ้านแต่ยังไม่มีเงินเก็บเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเก็บยังไง หรือเห็นโครงการบ้านจัดสรรบางโครงการประชาสัมพันธ์ว่ากู้ได้ 100% ไม่ต้องดาวน์เลยอาจจะทำให้คิดไปได้ว่าไม่ต้องมีเงินออมก็อาจจะซื้อได้ วันนึ้เราลองมาดูกันว่า เงินออมสำคัญหรือไม่ หากสำคัญจริงจะออมวิธีไหนดี

สิ่งแรกสุดที่คนซื้อบ้านต้องถามตัวเองเมื่อมีความคิดจะซื้อบ้านก็คือ ตอนนี้มีเงินเก็บอยู่เท่าไหร่แล้ว ซึ่งก็น่าจะเปรียบเทียบได้กับการกู้ซื้อรถยนต์ที่ผู้ซื้อทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายเงินดาวน์อย่างน้อย 20% แล้วยังมีค่าประกันค่าจดทะเบียนอะไรอีกมากมาย การซื้อบ้านก็เป็นลักษณะเดียวกัน ผู้ซื้อควรจะมีเงินเก็บไว้แล้วส่วนหนึ่งซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็ประมาณ 20% ของราคาบ้านที่จะซื้อ วันนี้ FD property มีวิธีการออมเงินต่างๆมาแนะนำ

ในเมื่อต้องมีเงินเก็บออมไว้สำหรับการซื้อบ้าน คำถามต่อไปก็คือ แล้วต้องมีเงินออมเป็นจำนวนเท่าใดถึงจะซื้อบ้านได้ แน่นอนว่าคนที่มีเงินออมเยอะๆเกินครึ่งของราคาบ้านคงไม่ต้องถามคำถามนี้อีกแล้ว แต่สำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นวัยทำงานแล้วต้องการอยากมีบ้าน เมื่อมองถึงเงินเดือนของตัวเองและคำนวณแล้วว่า เงินเดือนแค่นี้สามารถกู้เงินซื้อบ้านได้ที่ราคาเท่าไหร่ คำถามต่อมาก็คงเป็นว่าควรจะมีเงินเก็บอยู่อย่างน้อยเท่าไหร่นั้นเอง

วิธีคิดง่ายๆ สำหรับคนอยากมีบ้านก็คือ ควรมีเงินออมอย่างน้อยที่ประมาณ 20% ของราคาบ้านที่จะซื้อ นั่นเพราะสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะปล่อยกู้ให้กับลูกค้าทั่วไปที่ประมาณ 80% ของราคาประเมิน

ผู้คนส่วนใหญ่ที่สามารถออมเงินได้อย่างรวดเร็วมักจะใช้วิธีการนี้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ขาดวินัยในการออมและต้องการเริ่มออมเงินอย่างรวดเร็ว

วิธีการก็คือ ในวันที่เงินเดือนออก ก็ให้ถอนเงินจำนวนหนึ่งออกมา แล้วฝากเข้าบัญชีอื่นทันทีโดยไม่มีข้อแม้

ตัวอย่างเช่น หากตัวเองได้รับเงินเดือน 20,000 บาท ที่ผ่านมาใช้หมดทุกเดือนเหลือติดบัญชีแค่ไม่กี่ร้อยบาทในช่วงสิ้นเดือน พอมีเงินเดือนเข้าบัญชีอีกรอบ ก็ถอนเงินจำนวน 5,000 บาท ฝากเข้าบัญชีฝากประจำที่เปิดไว้แล้ว และต้องทำลืมไปแล้ว และให้มองว่าเงิน 5,000 บาทนี้คือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายออกไปและไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

จริงๆแล้ว รูปแบบการใช้เงินในลักษณะนี้ เช่นมีเรื่องจำเป็นต้องซื้อมือถือเครื่องใหม่ หรือเคยต้องซ่อมรถ หรืออาจจะเคยต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือเรื่องราวที่ไม่คาดคิดอื่นๆ และเดือนนั้นทั้งเดือนก็ต้องอยู่กับเงินที่เหลือให้ได้ แม้จะต้องงดกินอาหารนอกบ้าน ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยอย่างอื่นลงไป

จากกรณีที่เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นนานๆครั้ง เราก็จำลองว่ามันเกิดขึ้นทุกเดือน ทำให้เราต้องจ่ายทุกเดือน และจะต้องใช้ชีวิตกับเงินที่เหลือจำนวน 15,000 บาทนั้นให้ได้โดยไม่ต้องไปหยิบยืมเงินจากใคร แม้จะไม่สะดวกสบายเหมือนเก่าแต่เมื่อเราทำเป็นนิสัย ก็จะทำให้เราสามารถเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น

การออมเงินควรฝึกให้เป็นนิสัยตั้งแต่วัยยังเล็ก เพราะการออมเงินถือเป็นการเอาชนะใจตัวเอง ที่ต้องอดออม ลดความอยากมีอยากได้แล้วเก็บเงินส่วนนั้นไว้โดยไม่ใช้จ่ายออกไปในสิ่งที่ไม่จำเป็น

ดังนั้นการออม ถ้าจะให้สื่อถึงคำจำกัดความที่ยาวขึ้นก็คือการอดทนอดออมนั่นเอง นั่นคือเราจะต้องยอมสละความสบายส่วนเกิน ข่มใจตัวเองในการซื้อหาสิ่งของบริโภคที่แม้ไม่มีไม่ทำก็ไม่ถึงกับทำให้เกิดความลำบากยากแค้นอะไร เช่นการลดละเลิกอบายมุขต่างๆ เช่น งดดื่มเหล้า งดสูบบุหรี่ งดเที่ยวกลางคืน รวมไปถึงเลิกบริโภคอาหารราคาแพงตามร้านหรูๆ เช่นกาแฟแก้วละ 100 บาท ร้านอาหารปิ้งย่าง อาหารต่างชาติ ลดการทานอาหารนอกบ้าน

นอกจากวิธีข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีการออมเงินแบบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเก็บเงินออมไว้ที่บ้าน ซึ่งการออมเงินไว้ที่บ้านเป็นจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะอาจจะมีเหตุให้เงินจำนวนนั้นหายไปได้โดยง่าย วิธีการเหล่านั้นได้แก่

– ไม่ใช้ธนบัตรฉบับมูลค่า 50 บาท เช่นทุกครั้งที่ได้รับเงินทอนเป็นธนบัตรฉบับ 50 บาทก็ให้นำมาหยอดกระปุกไว้

– ทุกเช้ามีเงินติดกระเป๋าจำนวนเท่ากันทุกวัน กลับมาถึงบ้านเงินเหลือเท่าไหร่ให้หยอดกระปุกออมสิน วิธีการในลักษณะนี้เหมาะสำหรับการออมเงินเล็กๆน้อยๆ เช่นเอาไว้ซื้อของที่อยากได้ หรือไว้ท่องเที่ยวเป็นต้น เนื่องจากการออมเงินซื้อบ้านนั้นต้องออมในแต่ละเดือนเป็นจำนวนมาก การออมเงินเข้าบัญชีธนาคารไว้จะปลอดภัยและเป็นวิธีการที่สามารถแสดงให้สถาบันการเงินเห็นถึงวินัยการออมของเราได้

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก @ aborrow นะคะ

Follow Us
Recent Posts
Archive
Catagory

Home Office 3 ชั้น ใกล้ร.ร.
โครงการ เพียว ปาล์ม (เทพารักษ์-ศรีนครินทร์)

ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ทิพวัล ฯ

bottom of page